ผู้เขียน หัวข้อ: บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์เเละสรรพคุณ  (อ่าน 295 ครั้ง)

joosisu2s5d4

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญเติบโตในแถบอินเดีย แอฟริกา แล้วก็เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบแล้วก็ลำต้นประยุกต์ใช้เป็นยารักษาโรคตามหมอแผนโบราณของประเทศอินเดียและจีนมาอย่างยาวนาน ใช้รักษาหลายโรค ดังเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน และยังนำมาทำครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกายอยู่หลายประเภท ตัวอย่างเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือสามเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียว่ากล่าววัวไซด์ (Asiaticoside) กรดเอเชียติเตียนก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) และกรดมาดีติดอยู่สสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีสรรพคุณหลายสิ่งหลายอย่าง เป็นต้นว่า บรรเทาอาการอักเสบ แม้ใช้กินอาจมีคุณลักษณะช่วยลดระดับความดันเลือดในเส้นเลือดดำ และก็นำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีเหตุที่เกิดจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆดังเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อที่ระบบฟุตบาทเยี่ยว โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีความคิดกันว่าถ้าเกิดใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นข้อสำคัญสำหรับเพื่อการสมานรอยแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่มีเหตุที่เกิดจากการตั้งครรภ์ แต่สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากมายน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองความเลื่อมใส คุณประโยชน์ และความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับการรักษาโรคพวกนี้
การรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจเห็นผล
เส้นเลือดขอด มีการเรียนชิ้นหนึ่งแถลงการณ์ว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยทำนุบำรุงรวมทั้งสร้างสมดุลสำหรับเพื่อการเติบโตของเยื่อเกี่ยวเนื่อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นโลหิต มีผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยรวมทั้งเส้นเลือดขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับปรุงแก้ไขการไหลเวียนของเลือด ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีการเรียนรู้โดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่เกี่ยวโยง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนป่วยที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก แล้วก็อาการบวมน้ำทุเลาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจช่วยบรรเทาอาการคนไข้เส้นโลหิตขอดเรื้อรังลงได้ แต่จากงานศึกษาเรียนรู้กล่าวว่าผลสรุปข้างต้นจะต้องแปลความด้วยความระมัดระวังเหตุเพราะความจำกัดต่างๆของงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัย และยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องชัดเจนรวมทั้งมีคุณภาพมากพอในการประเมินความสามารถการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แม้กระนั้นยังมีหลักฐานช่วยเหลือไม่เพียงพอ
โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกอาจช่วยสำหรับเพื่อการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการเรียนชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นเลือดแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกลุ่มหนึ่งทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกรุ๊ปไม่รับประทาน แล้วตรวจหาความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของหลอดเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครทั้ง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน แต่ในกรุ๊ปที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดต่ำลง จำนวนไขมันหรือพลัคที่เส้นโลหิตแดงใหญ่ที่คอแล้วก็ขาลดลง รวมถึงรูปแบบของพลัคทั้งยังความหนาแล้วก็ความยาวก็ลดน้อยลงด้วยด้วยเหมือนกัน ทั้งยังไม่เจออาการที่ไม่พึงประสงค์ สามารถทนต่ออาการข้างๆได้ และมีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ เพราะหลักฐานส่งเสริมคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นโลหิตแดงแข็งยังน้อยเกินไป ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
คุ้มครองป้องกันลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุจากการขึ้นรถเรือบินเป็นระยะเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาแนะนำว่าใบบัวบกอาจช่วยลดของเหลวและเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในผู้ที่โดยสารเครื่องบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่กระจ่างว่าการศึกษาชิ้นนี้จะหมายคือการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เนื่องมาจากหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการคุ้มครองลิ่มเลือดยังไม่พอ จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวาน การค้นคว้าหนึ่งให้คนป่วยโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดฝอยปริมาณ 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารสามเทอร์พีนอยด์เป็นสาระสำคัญ ขนาด 60 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกเป็นประโยชน์ต่อการไหลเวียนของโลหิตในหลอดเลือดฝอยของคนไข้โรคเบาหวาน แม้กระนั้นหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังน้อยเกินไป จึงควรต้องศึกษาต่อไป
แผลเบาหวาน มีการทำการค้นคว้าเกี่ยวกับสมรรถนะและผลกระทบของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 200 คนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งรับประทานสารเอเชียว่ากล่าวโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. รวมทั้งอีกกลุ่มกินยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลข้างหลังมื้อของกินวันละ 3 ครั้ง แล้วก็มีการประมวลผลทุก 7 วัน พบว่าแผลของผู้ป่วยที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากกว่าและไม่เจอผลกระทบ หรือบอกได้ว่าสารสกัดจากใบ[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบก[/url]อาจมีประสิทธิภาพในการรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิดผลข้างๆ แต่เนื่องด้วยหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการดูแลรักษาแผลเบาหวานยังไม่พอ จึงต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก อย่างเช่น ทวีปเอเชียตำหนิโคไซด์ กรดทวีปเอเชียติเตียนก มาเดแคสโซไซด์ แล้วก็กรดมาดีค้างสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายรวมทั้งอาจมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาแผลต่างๆทั้งยังแผลขนาดเล็ก แผลไฟไหม้ แผลเป็นจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงรอยแผลแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาเรียนรู้วิจัยชิ้นหนึ่งได้ชี้แนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังภายหลังเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ตลอดนาน 6-8 สัปดาห์ บางทีอาจช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ รวมถึงรอยแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแผลยังไม่เพียงพอ ก็เลยจำต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการตั้งท้อง ได้มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยแนะนำให้คนที่กำลังตั้งท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน บ่อยๆทุกวันในช่วง 6 เดือนสุดท้ายก่อนจะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกจากนั้น ยังมีการทดสอบโดยให้หญิงมีครรภ์ปริมาณ 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และก็คอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจส่งผลให้กำเนิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเหตุเพราะหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
ลดความไม่สาบายใจ การดูแลรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อบรรเทาอาการซึมเซาและก็ความหนักใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเล่าเรียนทดสอบชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับคุณภาพของใบบัวบกสำหรับในการลดความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในจำนวน 12 กรัมหรือรับประทานยาหลอก จากผลของการทดสอบแสดงให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต่อต้านความกังวลใจ ช่วยลดความเครียด แม้กระนั้นยังคงจำต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกถัดไปถึงคุณภาพของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคไม่สบายใจ
โรคแล้วก็อาการอื่นๆยกตัวอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การตำหนิดเชื้อทางเท้าเยี่ยว โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องเดิน อาหารไม่ย่อย ซึ่งยังจำเป็นที่จะต้องทำการค้นคว้าหาความสามารถรวมทั้งความปลอดภัยสำหรับการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ว่าการกินใบบัวบกบางทีอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก คนที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคนที่อยู่ในตอนให้นมลูก ด้วยเหตุว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอที่จะสนับสนุนถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งต่อเด็ก แม่ หรือทารกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นสาเหตุให้กำเนิดความย่ำแย่ต่อตับ ฉะนั้นคนที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรกินใบบัวบก เพราะเหตุว่าอาจจะก่อให้อาการต่างๆห่วยแตกลงได้ รวมถึงไม่สมควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่ส่งผลต่อตับในกลุ่มกลุ่มนี้ อาทิเช่น พาราเซตามอล อะไม่โอดาโรน คาร์บามาซีปีน ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตตำหนิน เป็นต้น
การกินใบบัวบกในจำนวนมากอาจก่อให้รู้สึกง่วงนอนได้มากกว่าปกติ หรือถ้าหากรับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาคลายความกังวล ตัวอย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล และโซลพิเดม
ควรหยุดรับประทานใบบัวบกอย่างต่ำ 2 สัปดาห์สำหรับผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้สำหรับการผ่าตัดแล้วก็อาจจะส่งผลให้รู้สึกง่วงนอนได้มากขึ้น
ควรหารือแพทย์ก่อนกินใบบัวบก ถ้าอยู่ในตอนการใช้ยาหรืออาหารเสริมประเภทอื่นๆอยู่เป็นประจำ เพราะเหตุว่าอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ปรารถนาถ้าหากรับประทานใบบัวบกในระหว่างการดูแลและรักษาของผู้ป่วยโรคกังวล คนเจ็บเบาหวาน คนที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ รวมทั้งผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยาความกังวลลดลง รวมทั้งผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเหตุว่าอาจจะส่งผลให้กดประสาทเยอะขึ้น http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3