ผู้เขียน หัวข้อ: พญายอเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณ-ประโยชน์ที่น่าทึ่ง  (อ่าน 285 ครั้ง)

asd524ohp

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด

สมุนไพรพญายอ
ชื่อสมุนไพร พญายอ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau
ชื่อตระกูล ACANTHACEAE
ชื่อพ้อง Clinacanthus burmanni  Nees
ชื่ออังกฤษ ไม่มี
ชื่อเขตแดนผักมันไก่  ผักลิ้นเขียด  พญาปล้องคำ  พญาบ้องดำ พญายอ  โพะโซ่จาง  เสลดพังพอนตัวเมีย


ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์


          ไม้พุ่มรอเลื้อย ลำต้นแล้วก็แขนงเกลี้ยงเป็นมัน สูงได้ถึง 3 เมตร ใบคนเดียวออกเรียงตรงกันข้าม รูปขอบขนานหรือขอบขนานแกมใบหอก กว้าง 2-3 ซม. ยาว 7-9 เซนติเมตร โคนใบมน ปลายใบแหลม ก้านใบยาว 0.5 เซ็นติเมตร ดอกเป็นช่อ ออกเป็นกลุ่มที่ปลายยอด กลีบดอกไม้สีส้มแดงเชื่อมชิดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 2 ปาก ยาว 3-4 ซม. ไม่ติดฝัก


ส่วนที่ใช้เป็นยารวมทั้งสรรพคุณ


-ส่วนใบ รักษาอาการเพราะแมลงกัดต่อยแล้วก็โรคเริม


สารสำคัญที่ออกฤทธิ์


สารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ สารกลุ่ม monoglycosyl diglycerides เช่น 1,2-O-dilinolenoyl-3-O-b-d-glucopyranosyl-sn-glycerol แล้วก็สารกลุ่ม glycoglycerolipids จากใบ  มีฤทธิ์ยั้งไวรัสเริม


ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา


ฤทธิ์ลดการอักเสบ
       เมื่อป้อนสารสกัดจากใบด้วยเอ็นบิวทานอลให้หนูแรท  หรือฉีดสารสกัดด้วยน้ำจากใบเข้าช่องท้องของหนูแรท  จะลดการอักเสบของข้อเท้าหนูแรทที่ทำให้บวมด้วยสารคาราจีแนน (carrageenan) ได้   ตำรับยาที่มีพญายอปริมาณร้อยละ 5  ใน cold cream และสารสกัดด้วยเอทานอลจากใบ เมื่อนำมาทาเฉพาะที่ให้หนูแรท จะสามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้  แต่เมื่อใช้สารสกัดด้วยนเอ็นบิวทานอลทาที่ผิวหนังจะไม่ได้ผล
ฤทธิ์ลดลักษณะของการปวด
                 เมื่อให้หนูเม้าส์รับประทานสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบ จะลดความเจ็บปวดของหนูที่ถูกรั้งนำให้ปวดด้วยกรดอะซีตำหนิค  ขึ้นรถสกัดความแรง 90 มิลลิกรัม/กิโล จะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับเฟนนิวบิวทาโซนขนาด 100 มก./กิโลกรัม (5)  ส่วนสารสกัดด้วยคลอโรฟอร์ม (2)  สารสกัดด้วยน้ำ รวมทั้งสารสกัดด้วยเอทานอล 50% จากใบ (3) ไม่เป็นผลลดความเจ็บปวด

ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส
ไวรัสเริม
       พญายอสารสกัดด้วยเฮกเซน บิวทานอล และเอทิลอะสิเตทจากใบ มีฤทธิ์ต้านทานไวรัสเชื้อเริม HSV-1  และก็เมื่อนำไปทำเป็นตำรับเจลโดยใช้สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นร้อยละ 4 แล้วก็ใช้ carbopol 940 เป็นสารก่อเจล  พบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสได้ดิบได้ดีและไม่เป็นพิษต่อเซลล์  ในช่วงเวลาที่เมื่อใช้สารก่อเจล poloxamer 407 จะเป็นพิษต่อเซลล์
                 จากรายงานการดูแลและรักษาคนป่วยโรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ชนิดเป็นซ้ำด้วยยาจากสารสกัดพญายอ เปรียบเทียบกับยา acyclovir  รวมทั้งยาหลอก  โดยให้ผู้เจ็บป่วยป้ายยาวันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 6 วัน พบว่าไม่มีความแตกต่างในระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผลผู้เจ็บป่วยที่ใช้ยาจากสารสกัดใบพญายอและก็ยา acyclovir   โดยแผลจะเป็นสะเก็ดด้านใน 3 วัน และก็หายสนิทข้างใน 7 วัน ซึ่งไม่เหมือนกันกับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ ยาที่สกัดจากใบพญายอไม่ทำให้มีการเกิดการอักเสบ เคือง ในตอนที่ acyclovir ทำให้แสบ   นอกจากนี้มีการใช้ยาที่ทำจากพญายอ ในคนป่วยโรคเริม งูสวัด และแผลอักเสบในปาก พบว่าสามารถรักษาแผลแล้วก็ลดการอักเสบได้ดี   
เชื้อไวรัส Varicella zoster
                 สารสกัดจากใบ[url=http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2]พญายอ[/url]ออกฤทธิ์ทำลายไวรัส Varicella zoster ที่เป็นสาเหตุโรคงูสวัดรวมทั้งอีสุกอีใสได้โดยตรงก่อนที่จะไวรัสจะเข้าสู่เซลล์
จากรายงานการรักษาคนไข้โรคงูสวัดด้วยยาจากสารสกัดใบพญายอเปรียบเทียบกับยาหลอก  โดยให้ทายาวันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน จวบจนกระทั่งแผลจะหาย  พบว่าคนไข้ที่รักษาด้วยสารสกัดจากใบพญายอ แล้วมีแผลเป็นสะเก็ดด้านใน 3 วัน แล้วก็หายด้านใน 7-10 วัน จะมีเยอะแยะกว่ากรุ๊ปสุดที่รักษาด้วยยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับความเจ็บปวดลดน้อยลงเร็วกว่ากลุ่มยาหลอก และไม่เจอผลข้างเคียงอะไรก็ตาม


อาการข้างเคียง


ความเป็นพิษทั่วไปรวมทั้งต่อระบบแพร่พันธุ์


การทดสอบความเป็นพิษ
เมื่อป้อนสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบให้หนูเม้าส์ พบว่าเป็นพิษน้อย แม้กระนั้นมีพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าท้อง  ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1.3 กรัม/กก. (หรือเสมอกันใบแห้ง 5.44 กรัม/กิโล) เมื่อป้อนเข้าทางปากหรือฉีดเข้าช่องท้องหนูเม้าส์ ไม่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการพิษอะไรก็แล้วแต่
การศึกษาพิษ
พญายอครึ่งเรื้อรัง พบว่าเมื่อป้อนหนูแรทด้วยสารสกัดเอ็นบิวทานอลจากใบขนาด 270 มก./กก. รวมทั้ง 540 มก./โล ทุกวี่ทุกวัน นาน 6 สัปดาห์ พบว่าไม่เป็นผลต่อการเจริญเติบโต แต่ว่าน้ำหนักต่อมธัยมัสลดลง ขณะที่น้ำหนักตับเพิ่มขึ้น ไม่เจอความผิดปกติต่ออวัยวะอื่น และไม่เจออาการไม่ปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ หนูแรทที่รับประทานสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1 กรัม/กิโล ทุกเมื่อเชื่อวันนาน 90 วัน พบว่าการกินอาหารของกลุ่มที่ได้รับสารสกัดแล้วก็กรุ๊ปควบคุมไม่ได้มีความแตกต่างกัน แม้กระนั้นน้ำหนักของหนูเพศผู้ที่ได้สารสกัดขนาด 1.0 กรัม/กก. ต่ำลงยิ่งกว่าพญายอกลุ่มควบคุม  เกร็ดเลือดของหนูแรททั้งสองเพศสูงกว่า และครีอาติเตียนนินต่ำกว่ากรุ๊ปควบคุม  แต่ว่าไม่พบความผิดปกติด้านจุลพยาธิวิทยาของอวัยวะภายใน รวมทั้งพยาธิภาวะด้านนอกhttp://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3