ผู้เขียน หัวข้อ: บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์เเละสรรพคุณ  (อ่าน 285 ครั้ง)

iutpppx08dd55

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 8
    • ดูรายละเอียด

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เติบโตในแถบอินเดีย แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบและก็ลำต้นประยุกต์ใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของอินเดียและก็จีนมาอย่างนาน ใช้รักษาหลายโรค ยกตัวอย่างเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งยังเอามาเข้าครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่หลายประเภท อย่างเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือสามเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียตำหนิวัวไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียติก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) แล้วก็กรดมาดีค้างสสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีสรรพคุณหลายประเภท เช่น บรรเทาอาการอักเสบ แม้ใช้รับประทานอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันเลือดในเส้นเลือดดำ และก็นำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆเป็นต้นว่า หวัด ไข้หวัดใหญ่ การตำหนิดเชื้อที่ระบบฟุตบาทฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีความคิดกันว่าถ้าหากใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับในการสมานบาดแผล ลดลางเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่มีสาเหตุจากการตั้งครรภ์ แต่ข้อรับรองหรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากน้อยเท่าใดที่จะช่วยรับรองความศรัทธา คุณประโยชน์ และก็ความปลอดภัยของใบบัวบกในการรักษาโรคเหล่านี้
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผล
เส้นเลือดขอด มีการเรียนชิ้นหนึ่งรายงานว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยทำนุบำรุงและก็สร้างสมดุลสำหรับเพื่อการเติบโตของเยื่อเกี่ยวข้อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นเลือด ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยแล้วก็เส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับแต่งการไหลเวียนของโลหิต นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาโดยการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่เกี่ยวเนื่อง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนไข้ที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าอาการปวดขา ขาหนัก แล้วก็อาการบวมน้ำทุเลาลงอย่างมีนัยสำคัญ ถึงสารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยทุเลาอาการผู้ป่วยเส้นโลหิตขอดเรื้อรังลงได้ แม้กระนั้นจากการค้นคว้าวิจัยกล่าวว่าผลสรุปข้างต้นจะต้องตีความด้วยความระแวดระวังเนื่องด้วยความจำกัดต่างๆของงานค้นคว้าวิจัย และก็ยังจึงควรศึกษาเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องรวมทั้งมีคุณภาพมากพอสำหรับในการประเมินคุณภาพการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แต่ยังมีหลักฐานส่งเสริมไม่พอ
โรคเส้นเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกอาจช่วยสำหรับการลดจำนวนไขมันในเส้นเลือดได้ จากการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นโลหิตแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกลุ่มหนึ่งกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของหลอดเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัคร 2 กลุ่มไม่แตกต่างกัน แม้กระนั้นในกรุ๊ปที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดลดลง จำนวนไขมันหรือพลัคที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอและขาลดลง รวมทั้งลักษณะของพลัคอีกทั้งความครึ้มและความยาวก็ลดลงด้วยด้วยเหมือนกัน อีกทั้งยังไม่เจออาการที่ไม่ปรารถนา สามารถทนต่ออาการข้างๆได้ แล้วก็มีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ เพราะเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังน้อยเกินไป จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
ป้องกันลิ่มเลือด การกินใบบัวบกบางทีอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากการโดยสารเครื่องบินเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาเสนอแนะว่าใบบัวบกบางทีอาจช่วยลดของเหลวรวมทั้งเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในคนที่ขึ้นรถเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่กระจ่างแจ้งว่าการเรียนรู้ชิ้นนี้จะเป็นการลดการสะสมของลิ่มเลือด เพราะเหตุว่าหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการคุ้มครองป้องกันลิ่มเลือดยังน้อยเกินไป ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในคนป่วยเบาหวาน การค้นคว้าหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยจำนวน 50 คน กินสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารตรีเทอร์พีนอยด์เป็นหัวใจสำคัญ ขนาด 60 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันตรงเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีสาระต่อการไหลเวียนเลือดในเส้นเลือดฝอยของคนป่วยโรคเบาหวาน แต่หลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังน้อยเกินไป จึงจะต้องศึกษาต่อไป
แผลเบาหวาน มีการทำการศึกษาเกี่ยวกับสมรรถนะและก็ผลกระทบของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งคนไข้โรคเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งรับประทานสารทวีปเอเชียว่ากล่าววัวไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มิลลิกรัม รวมทั้งอีกกลุ่มรับประทานยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง และมีการให้คะแนนทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนเจ็บที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากกว่าและไม่พบผลข้างเคียง หรือพูดได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีความสามารถสำหรับเพื่อการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลใกล้กัน แต่เพราะว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการดูแลและรักษาแผลโรคเบาหวานยังไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ตัวอย่างเช่น ทวีปเอเชียว่ากล่าวโคไซด์ กรดเอเชียตำหนิก มาเดแคสโซไซด์ รวมทั้งกรดมาดีติดอยู่สสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายแล้วก็อาจมีประสิทธิภาพในการรักษาแผลต่างๆทั้งยังแผลขนาดเล็ก แผลไฟเผา รอยแผลจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงแผลเป็นแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งได้ชี้แนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกรอบๆผิวหนังหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน สม่ำเสมอนาน 6-8 อาทิตย์ อาจช่วยลดการเกิดรอยแผลได้ รวมถึงรอยแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แต่เหตุเพราะหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อแผลเป็นยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการมีท้อง ได้มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยแนะนำให้ผู้ที่กำลังมีครรภ์ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และก็คอลลาเจน เป็นประจำทุกวี่ทุกวันในช่วง 6 เดือนท้ายที่สุดก่อนจะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกจากนี้ ยังมีการทดลองโดยให้หญิงตั้งครรภ์จำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจจะส่งผลให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกลุ่มที่ใช้ยาหลอก แต่ว่าเนื่องจากว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำต้องศึกษาต่อไป
ลดความรู้สึกกังวล การดูแลรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อบรรเทาอาการเหงาหงอยและความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนทดลองชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับคุณภาพของใบบัวบกสำหรับเพื่อการลดความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครรับประทานใบบัวบกในจำนวน 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลของการทดสอบทำให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านทานความวิตก ช่วยลดความเคร่งเครียด แม้กระนั้นยังคงจำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติมถัดไปถึงคุณภาพของใบบัวบกในการรักษาโรควิตก
โรคและก็อาการอื่นๆตัวอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การต่อว่าดเชื้อทางเท้าปัสสาวะ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องร่วง ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังจำต้องทำการวิจัยหาความสามารถและก็ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการรักษาต่อไป

ความปลอดภัยสำหรับในการรับประทานใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ว่าการกินใบบัวบกบางทีอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก คนที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคนที่อยู่ในตอนให้นมลูก เนื่องจากว่ายังไม่มีหลักฐานทางด้านการแพทย์พอเพียงที่จะช่วยเหลือถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งยังต่อเด็ก แม่ หรือลูกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดความย่ำแย่ต่อตับ ฉะนั้นคนที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรกินใบบัวบก เพราะอาจจะก่อให้อาการต่างๆห่วยแตกลงได้ รวมถึงไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกลุ่มพวกนี้ อย่างเช่น พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีตะกาย ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตติน เป็นต้น
การกินใบบัวบกในปริมาณมากอาจก่อให้รู้สึกง่วงงุนได้มากกว่าปกติ หรือแม้รับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาคลายความกังวลใจ ได้แก่ โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล และโซลพิเดม
ควรจะหยุดกินใบบัวบกอย่างต่ำ 2 อาทิตย์สำหรับผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้ในการผ่าตัดและก็อาจก่อให้รู้สึกง่วงได้มากขึ้น
ควรปรึกษาหมอก่อนรับประทานใบบัวบก หากอยู่ในตอนการใช้ยาหรืออาหารเสริมจำพวกอื่นๆอยู่เป็นประจำ เพราะว่าอาจจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงปรารถนาถ้ารับประทานใบบัวบกในระหว่างการดูแลและรักษาของคนเจ็บโรคตื่นตระหนก ผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้เจ็บป่วยอัลไซเมอร์ รวมถึงผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยาหนักใจลดลง รวมทั้งผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะว่าอาจจะทำให้กดประสาทมากยิ่งขึ้น http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3