ผู้เขียน หัวข้อ: บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์เเละสรรพคุณ  (อ่าน 308 ครั้ง)

a123

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
    • ดูรายละเอียด

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เติบโตในแถบอินเดีย แอฟริกา และเอเซียอาคเนย์ ใบรวมทั้งลำต้นประยุกต์ใช้เป็นยารักษาโรคตามหมอแผนโบราณของอินเดียและก็จีนมาอย่างช้านาน ใช้รักษาหลายโรค ดังเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน แล้วก็ยังนำมาเข้าครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกมีสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายประเภท ได้แก่ ซาโปนิน (Saponin) หรือสามเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) ทวีปเอเชียว่ากล่าววัวไซด์ (Asiaticoside) กรดเอเชียติก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) แล้วก็กรดมาดีค้างสสิค (Madecassic Acid) ก็เลยทำให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีคุณประโยชน์หลายประเภท ดังเช่น บรรเทาอาการอักเสบ แม้ใช้กินอาจมีคุณลักษณะช่วยลดระดับความดันโลหิตในเส้นเลือดดำ รวมทั้งนำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆตัวอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ การตำหนิดเชื้อที่ระบบทางเท้าปัสสาวะ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาตกโรค โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด ฯลฯ นอกนั้น ยังมีความคิดกันว่าถ้าเกิดใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับเพื่อการสมานบาดแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมถึงปัญหาท้องลายที่มีเหตุที่เกิดจากการท้อง แต่ว่าสิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากมายน้อยแค่ไหนที่จะช่วยยืนยันความศรัทธา สรรพคุณ รวมทั้งความปลอดภัยของใบบัวบกในการรักษาโรคพวกนี้
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่อาจได้ผล
เส้นโลหิตขอด มีการศึกษาชิ้นหนึ่งกล่าวว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยทำนุบำรุงรวมทั้งสร้างสมดุลในการเติบโตของเนื้อเยื่อเกี่ยวเนื่อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นเลือด มีผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยรวมทั้งเส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับปรุงการไหลเวียนของโลหิต นอกนั้น ยังมีการเล่าเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวพัน 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในผู้ป่วยที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก และอาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง ถึงแม้สารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการคนเจ็บเส้นเลือดขอดเรื้อรังลงได้ แม้กระนั้นจากงานศึกษาเรียนรู้วิจัยระบุว่าผลสรุปข้างต้นต้องแปลความหมายด้วยความรอบคอบเพราะว่าข้อจำกัดต่างๆของงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัย และก็ยังจำเป็นจะต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องแล้วก็มีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินประสิทธิภาพการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แม้กระนั้นยังมีหลักฐานช่วยเหลือน้อยเกินไป
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกบางทีอาจช่วยในการลดจำนวนไขมันในเส้นเลือดได้ จากการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นโลหิตแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกรุ๊ปหนึ่งรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน แล้วก็อีกกรุ๊ปไม่รับประทาน แล้วตรวจหาความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครทั้งยัง 2 กรุ๊ปไม่มีความต่างกัน แม้กระนั้นในกรุ๊ปที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดลดลง ปริมาณไขมันหรือพลัคที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอแล้วก็ขาลดลง รวมทั้งรูปแบบของพลัคอีกทั้งความหนารวมทั้งความยาวก็ลดน้อยลงด้วยด้วยเหมือนกัน อีกทั้งยังไม่เจออาการที่ไม่พึงประสงค์ สามารถทนต่ออาการข้างเคียงได้ และก็มีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ เนื่องจากหลักฐานส่งเสริมคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังไม่เพียงพอ ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
ป้องกันลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกอาจช่วยคุ้มครองการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีสาเหตุจากการโดยสารเครื่องบินเป็นเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาแนะนำว่าใบบัวบกอาจช่วยลดของเหลวและก็เพิ่มการไหลเวียนเลือดในคนที่โดยสารเครื่องบินติดต่อกันนานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการศึกษาชิ้นนี้จะคือการลดการสะสมของลิ่มเลือด เพราะว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการคุ้มครองลิ่มเลือดยังไม่พอ จึงจำต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน งานวิจัยหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยจำนวน 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารตรีเทอร์พีนอยด์เป็นส่วนสำคัญ ขนาด 60 มก. 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก พบว่าสารไตรเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกเป็นประโยชน์ต่อการไหลเวียนของโลหิตในเส้นเลือดฝอยของคนไข้โรคเบาหวาน แต่ว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
แผลโรคเบาหวาน มีการวิจัยเกี่ยวกับคุณภาพและผลกระทบของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งคนป่วยโรคเบาหวานจำนวน 200 คนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกรุ๊ปหนึ่งรับประทานสารทวีปเอเชียติโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. แล้วก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง และมีการให้คะแนนทุก 7 วัน พบว่าแผลของผู้เจ็บป่วยที่รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีกว่าและไม่เจอผลข้างเคียง หรือพูดได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีความสามารถสำหรับในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และสามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลใกล้กัน แต่ว่าเนื่องจากว่าหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการดูแลรักษาแผลเบาหวานยังน้อยเกินไป ก็เลยจำต้องศึกษาต่อไป
แผลเป็น สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ดังเช่นว่า ทวีปเอเชียว่ากล่าวโคไซด์ กรดเอเชียติเตียนก มาเดแคสโซไซด์ และกรดมาดีคาสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายและอาจมีความสามารถในการรักษาแผลต่างๆอีกทั้งแผลขนาดเล็ก แผลไฟเผา แผลเป็นจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมทั้งแผลเป็นแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งได้แนะนำว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกรอบๆผิวหนังหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ต่อเนื่องนาน 6-8 อาทิตย์ บางทีอาจช่วยลดการเกิดแผลได้ รวมทั้งรอยแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อแผลเป็นยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการมีท้อง ได้มีงานศึกษาวิจัยชี้แนะให้ผู้ที่กำลังมีครรภ์ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน บ่อยๆทุกวี่ทุกวันในตอน 6 เดือนสุดท้ายก่อนที่จะมีการคลอด ซึ่งบางทีอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกนั้น ยังมีการทดสอบโดยให้หญิงตั้งครรภ์ปริมาณ 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจส่งผลให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกลุ่มที่ใช้ยาหลอก แต่เนื่องจากว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
ลดความรู้สึกหนักใจ การรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อทุเลาอาการเศร้าหมองและความกลุ้มอกกลุ้มใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ทดลองชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับการลดความกลุ้มอกกลุ้มใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครรับประทานใบบัวบกในจำนวน 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลของการทดสอบแสดงให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต่อต้านความวิตก ช่วยลดความเคร่งเครียด แต่ว่ายังคงจำต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกต่อไปถึงสมรรถนะของใบบัวบกในการรักษาโรควิตก
โรคแล้วก็อาการอื่นๆยกตัวอย่างเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การติดเชื้อทางเดินเยี่ยว โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย ซึ่งยังจำต้องทำการศึกษาหาความสามารถแล้วก็ความปลอดภัยสำหรับในการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการกินใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ว่าการกินใบบัวบกอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก คนที่กำลังมีครรภ์ หรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะยังไม่มีหลักฐานด้านการแพทย์พอเพียงที่จะช่วยเหลือถึงเรื่องความปลอดภัยอีกทั้งต่อเด็ก คุณแม่ หรือลูกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายต่อตับ ด้วยเหตุนั้นผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรรับประทานใบบัวบก เพราะอาจก่อให้อาการต่างๆห่วยแตกลงได้ รวมทั้งไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกรุ๊ปกลุ่มนี้ ได้แก่ พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีไต่ ไอโซไนอะสิด ซิมวาสแตตำหนิน ฯลฯ
การกินใบบัวบกในจำนวนมากอาจจะเป็นผลให้รู้สึกง่วงหงาวหาวนอนได้มากกว่าปกติ หรือถ้าหากรับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาความไม่ค่อยสบายใจน้อยลง ยกตัวอย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล รวมทั้งโซลพิเดม
ควรหยุดรับประทานใบบัวบกอย่างน้อย 2 สัปดาห์สำหรับคนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้เพื่อการผ่าตัดและอาจทำให้รู้สึกง่วงนอนได้มากขึ้น
ควรจะหารือแพทย์ก่อนรับประทานใบบัวบก หากอยู่ในช่วงการใช้ยาหรืออาหารเสริมชนิดอื่นๆอยู่เป็นประจำ เนื่องจากอาจจะเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงปรารถนาแม้รับประทานใบบัวบกในระหว่างการดูแลรักษาของผู้ป่วยโรควิตกกังวล คนป่วยโรคเบาหวาน คนที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ รวมทั้งคนที่ใช้ยานอนหลับหรือยาวิตกกังวลลดลง และก็ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยเหตุว่าอาจทำให้กดประสาทมากขึ้น http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรบัวบก

 

Sitemap 1 2 3