ผู้เขียน หัวข้อ: บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์เเละสรรพคุณ  (อ่าน 322 ครั้ง)

pussy22

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
    • ดูรายละเอียด

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญวัยในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบและก็ลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามหมอแผนโบราณของอินเดียและก็จีนมาอย่างยาวนาน ใช้รักษาหลายโรค เช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน และก็ยังนำมาเตรียมอาหารได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกมีสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกายอยู่หลายแบบ ดังเช่นว่า ซาโปนิน (Saponin) หรือตรีเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียตำหนิวัวไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียติก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) และกรดมาดีติดอยู่สสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยเชื่อว่ามีคุณประโยชน์หลายชนิด อาทิเช่น บรรเทาอาการอักเสบ หากใช้รับประทานอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันเลือดในเส้นเลือดดำ และนำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีต้นเหตุที่เกิดจากการตำหนิดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การตำหนิดเชื้อที่ระบบทางเดินฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาตกโรค โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น ยิ่งกว่านั้น ยังมีความคิดกันว่าแม้ใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับเพื่อการสมานรอยแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่เกิดจากการท้อง แต่ว่าหลักฐานหรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยรับรองความเชื่อ สรรพคุณ รวมทั้งความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผล
เส้นโลหิตขอด มีการเรียนชิ้นหนึ่งรายงานว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงและสร้างสมดุลสำหรับเพื่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นโลหิต ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยและก็เส้นเลือดขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของเลือด นอกเหนือจากนี้ ยังมีการเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้ที่เกี่ยวพัน 8 ชิ้นเกี่ยวกับการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในผู้เจ็บป่วยที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าอาการปวดขา ขาหนัก แล้วก็อาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง ถึงแม้สารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการคนป่วยเส้นเลือดขอดเรื้อรังลงได้ แต่จากงานวิจัยกล่าวว่าผลสรุปข้างต้นต้องแปลความด้วยความระวังด้วยเหตุว่าข้อจำกัดต่างๆของงานศึกษาเรียนรู้วิจัย และยังจะต้องเรียนรู้เพิ่มเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องชัดเจนแล้วก็มีคุณภาพมากพอในการประเมินคุณภาพการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แม้กระนั้นยังมีหลักฐานสนับสนุนน้อยเกินไป
โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกอาจช่วยสำหรับการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นเลือดแดงแข็งที่ไม่ออกอาการกรุ๊ปหนึ่งทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครอีกทั้ง 2 กรุ๊ปไม่แตกต่างกัน แต่ว่าในกรุ๊ปที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดน้อยลง จำนวนไขมันหรือพลัคที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอและขาลดลง รวมทั้งรูปแบบของพลัคอีกทั้งความหนารวมทั้งความยาวก็ลดลงด้วยเช่นกัน ทั้งยังไม่เจออาการที่ไม่พึงประสงค์ สามารถทนต่ออาการใกล้กันได้ และก็มีการบันทึกผลของการตรวจเลือดบ่อยๆ เพราะเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังไม่เพียงพอ ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
คุ้มครองลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากการโดยสารเครื่องบินเป็นระยะเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาแนะนำว่าใบบัวบกอาจช่วยลดของเหลวและก็เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในผู้ที่โดยสารเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการศึกษาเล่าเรียนชิ้นนี้จะคือการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เนื่องจากหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการป้องกันลิ่มเลือดยังน้อยเกินไป จึงจำต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ในคนไข้โรคเบาหวาน งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งให้คนไข้เบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดฝอยจำนวน 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารไตรเทอร์พีนอยด์เป็นข้อสำคัญ ขนาด 60 มก. 2 ครั้งต่อวันตรงเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก พบว่าสารไตรเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในเส้นเลือดฝอยของคนป่วยเบาหวาน แต่ว่าหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังน้อยเกินไป จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
แผลเบาหวาน มีการทำการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถรวมทั้งผลข้างเคียงของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลโรคเบาหวาน โดยแบ่งคนป่วยโรคเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกลุ่มหนึ่งรับประทานสารทวีปเอเชียติเตียนโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. แล้วก็อีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง แล้วก็มีการวัดผลทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนไข้ที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากยิ่งกว่าและไม่เจอผลข้างเคียง หรือพูดได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีความสามารถสำหรับในการรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และก็สามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลข้างๆ แต่ว่าเหตุเพราะหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการรักษาแผลเบาหวานยังน้อยเกินไป ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ยกตัวอย่างเช่น เอเชียติวัวไซด์ กรดเอเชียตำหนิก มาเดแคสโซไซด์ แล้วก็กรดมาดีติดอยู่สสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายและก็อาจมีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาแผลต่างๆทั้งยังแผลขนาดเล็ก แผลไฟไหม้ รอยแผลจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงรอยแผลแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งได้ชี้แนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ต่อเนื่องนาน 6-8 อาทิตย์ อาจช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ รวมทั้งแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นเนื่องจากหลักฐานส่งเสริมคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแผลยังน้อยเกินไป จึงต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการท้อง ได้มีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยเสนอแนะให้ผู้ที่กำลังมีครรภ์ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน บ่อยๆวันแล้ววันเล่าในช่วง 6 เดือนท้ายที่สุดก่อนจะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกเหนือจากนั้น ยังมีการทดสอบโดยให้หญิงท้องจำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจก่อให้กำเนิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเนื่องด้วยหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
ลดความกลุ้มใจ การดูแลและรักษาแบบแพทย์แผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อบรรเทาอาการเศร้าหมองและความกลุ้มอกกลุ้มใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ทดลองชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับเพื่อการลดความหนักใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในปริมาณ 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลของการทดสอบทำให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านความรู้สึกวิตกกังวล ช่วยลดความเครียด แต่ว่ายังคงจะต้องเล่าเรียนเสริมเติมถัดไปถึงสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับในการรักษาโรคกังวล
โรคและก็อาการอื่นๆอย่างเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การตำหนิดเชื้อทางเท้าฉี่ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องเสีย ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังจำต้องทำการศึกษาเรียนรู้หาสมรรถนะและความปลอดภัยในการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยสำหรับในการกินใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกบางทีอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก คนที่กำลังมีท้อง หรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก เนื่องจากว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอที่จะสนับสนุนถึงเรื่องความปลอดภัยต่อเด็ก แม่ หรือลูกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นสาเหตุให้กำเนิดความทรุดโทรมต่อตับ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรรับประทานใบบัวบก ด้วยเหตุว่าอาจก่อให้อาการต่างๆห่วยลงได้ รวมถึงไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกลุ่มพวกนี้ เป็นต้นว่า พาราเซตามอล อะไม่โอดาโรน คาร์บามาซีไต่ ไอโซไนอะสิด ซิมวาสแตติเตียนน เป็นต้น
การรับประทานใบบัวบกในปริมาณมากอาจทำให้รู้สึกอยากนอนได้มากกว่าปกติ หรือหากรับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาความกังวลใจลดลง ตัวอย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล รวมทั้งโซลพิเดม
ควรหยุดรับประทานใบบัวบกอย่างต่ำ 2 สัปดาห์สำหรับผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้ในการผ่าตัดและก็อาจจะเป็นผลให้รู้สึกง่วงได้มากขึ้น
ควรขอความเห็นแพทย์ก่อนกินใบบัวบก ถ้าหากอยู่ในตอนการใช้ยาหรืออาหารเสริมประเภทอื่นๆอยู่เป็นประจำ เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ถ้าเกิดกินใบบัวบกในระหว่างการดูแลรักษาของผู้ป่วยโรคกังวล คนเจ็บเบาหวาน ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้เจ็บป่วยอัลไซเมอร์ รวมถึงคนที่ใช้ยานอนหลับหรือยาความกลุ้มใจน้อยลง แล้วก็คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจจะทำให้กดประสาทมากขึ้นเรื่อยๆ http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3