ผู้เขียน หัวข้อ: เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณ-ประโยชน์อย่างน่าทึ่ง  (อ่าน 314 ครั้ง)

dpdsio2s4a5

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด

เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน ขี้กลากโรคเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มแพทย์ แก้มแพทย์เล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในหนังสือเรียนยาไทยกล่าวว่า เหงือกปลาแพทย์สามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกชนิด
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้กระทั้ง โรคอีสุกอีใส ที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็จะลดลงลง
สมุนไพร เหงือกปลาแพทย์เป็นไม้พุ่มที่มีขนาดกลางๆสูงประมาณ 1-2 เมตร ส่วนของลำต้นและใบจะมีหนามมีหนาม ใบหนามแข็งรวมทั้งมีขอบเว้าหนามแหลมใบออกเป็นคู้ตรงข้ามกัน ส่วนของดอกจะออกเป็นช่อตามยอด กลีบจะมีสีขาอมม่วง มี 4 กลีบแยกจากกันผลเป็นฝักสีน้ำตาล มี เมล็ด จะสามารถพบได้มากตามชายน้ำ ริมฝั่งลำคลองบริเวณปากแม่น้ำ
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้จะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แม้กระนั้นเมื่อใช้เหงือกปลาหมอเป็นทั้งยารับประทานรวมทั้งต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะลดลงลงอย่างชัดเจน สำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังด้วย
แนวทางปรุงยาและวิธีใช้ยาก็มีหลายวิธีเป็น
แนวทางต้มยากินและอาบ
เอาเหงือกปลาแพทย์สดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มกินขณะอุ่นๆครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้าตรู่-เย็น ก่อนอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น จำต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจะต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดซะก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำธรรมดาตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง เช้าตรู่-เย็นครั้งละ 3-4 ขัน แต่ว่าถ้าเกิดมีเหงือกปลาแพทย์เยอะๆ บางครั้งอาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่ตลอดตัวในอ่างก็ยิ่งดี
ขั้นตอนการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาหมอทั้ง 5 ทีตากแห้งมาบดเป็นผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ซม. คนแก่กินทีละ 2 เม็ด เด็กบางทีก็อาจจะรับประทานทีละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุแล้วก็น้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร ยามเช้า-เย็น กินไปเรื่อยจวบจนกระทั่งจะหาย แต่หากเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานขาดตกบกพร่องก็ต้องกินตลอดไป

ขั้นตอนการทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการร่อนเป็นผุยผงละเอียดเหมือนแป้งใส่แคปซูลขนาด 250 มก. คนแก่รับประทานทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนที่จะรับประทานอาหาร เด็กต่ำลงตามส่วน
เหงือกปลาแพทย์มีสรรพคุณมากไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นต้นว่า
-ราก มีสรรพคุณสำหรับในการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ แล้วก็ใช้ขับเสลด
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลากหลายประเภท โดยใช้ต้นตำผสมน้ำรักษาวัณโรค อาการผอมโซ หากใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้สรรพคุณทางยาไม่เหมือนกันออกไปอีก
-ทั้งยังต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้หัวลม แก้โรคผิวหนังทุกประเภท
-อีกทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังถอนพิษ ต้มกินแก้พิษไข้ทรพิษ ฝีทั้งผอง ผลกินเป็นยาขับเลือดรอบเดือน นอกเหนือจากนั้น ถ้าหากตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ทั้งต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาหมดทั้งตัว
- ทั้งยังต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะ
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง เป็นไข้จับสั่น
- อีกทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บข้างหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกิน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผอมเกร็งเหลืองตลอดตัว กินทุกวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือนิดนึง หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำจนถึงเดือดให้งวดก็เลยชูลง กลั้นใจรับประทานขณะอุ่นจนถึงหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนทั้งตัว วิงเวียน ตามัว เจ็บระบมหมดทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาแพทย์" ทั้งยัง 5 รวมราก กับ อาหารมื้อเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ จำนวนเท่ากัน กะตามอยากได้ ต้มกับน้ำจนกระทั่งเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา เช้าตรู่ ช่วงกลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดีขึ้น ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย แล้วก็ต้องระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาแพทย์" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นกินทุกวี่วัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค ปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกจำพวกหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 พวก หูดี
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่ทราบเมื่อยล้า
กินได้ 7 เดือน ผิวงาม
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงกินกับน้ำร้อนถ้าเกิดผิวแตกหมดทั้งตัวหายได้ ทั้งสิ้นที่บอกเป็นหนังสือเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่ รู้ไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3