ผู้เขียน หัวข้อ: เหงือกปลาหมอนับว่าเป็นสมุนไพรที่น่าอัศจรรย์  (อ่าน 5583 ครั้ง)

01adxz45

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด

เหงือกปลาหมอ
ถิ่นกำเนิดเหงือกปลาหมอ
เหงือกปลาหมอนับว่าเป็นสมุนไพรท้องถิ่นของไทยเราเพราะว่ามีประวัติในการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณแล้ว ซึ่งเหงือกปลาหมอนี้เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นกลางแจ้งและก็ชอบพบได้บ่อยในบริเวณป่าชายเลน หรือตามพื้นที่ชายน้ำริมฝั่งลำคลอง เจริญเติบโตก้าวหน้าในที่ร่มรวมทั้งมีความชุ่มชื้นสูง หรือในแถบที่ดินเค็มและไม่ถูกใจที่ดอน แถบภาคอีสารก็มีรายงายว่าปลูกได้เช่นเดียวกัน เหงือกปลาหมอ พบอยู่ 2 ชนิดหมายถึงประเภทดอกสีขาว Acanthus ebracteatus Vahl พบได้มากในภาคกึ่งกลางรวมทั้งภาคตะวันออก ชนิดดอกสีม่วง  Acanthus ilicifolius L. พบทางภาคใต้ ทั้งยังเหงือกปลาหมอยังเป็นประเภทไม่ขึ้นชื่อลือชาของจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย
ลักษณะทั่วไป
ต้นเหงือกปลาหมอ เป็นไม้พุ่มขนาดกึ่งกลาง มีความสูงราวๆ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งชัน มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 1.5 ซม.
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบผู้เดียว รูปแบบของใบมีหนามคมอยู่ขอบขอบใบรวมทั้งปลายใบ ขอบใบเว้าเป็นระยะๆผิวใบเรียบวาวลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีเหลือบสีขาวเป็นแถวก้าง เนื้อใบแข็งรวมทั้งเหนียว ใบกว้างราวๆ 4-7 เซนติเมตร และก็ยาวราว 10-20 เซนติเมตร ใบจะออกเป็นคู่ตรงกันข้ามกัน ก้านใบสั้น
ดอกเหงือกปลาหมอ ออกดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวประมาณ 4-6 นิ้ว ทั้งนี้สีของดอกขึ้นอยู่กับชนิดของต้นเหงือกปลาหมอเป็น ดอกมีอีกทั้งชนิดดอกสีม่วง หรือสีฟ้า รวมทั้งจำพวกดอกสีขาว แต่ลักษณะอื่นๆเหมือกันคือ  ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน ส่วนกลีบเป็นท่อปลายบานโต ยาวราวๆ 2-4 ซม. รอบๆกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่
ผลเหงือกปลาหมอ ลักษณะของผลเป็นฝักสีน้ำตาล รูปแบบของฝักเป็นทรงกระบอกกลมรี รูปไข่ ยาวราว 2-3 เซนติเมตร เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ภายในฝักมีเม็ด 4 เมล็ด
เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน ขี้กลากเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มแพทย์ แก้มแพทย์เล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในตำราเรียนยาไทยพูดว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกประเภท
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้กระทั้ง โรคอีสุกอีใส ที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อไวรัสก็จะบรรเทาเบาบางลง
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้จะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วๆไป แม้กระนั้นเมื่อใช้เหงือกปลาหมอเป็นยากินแล้วก็ต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นระยะเวลานานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะลดลงลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคนเจ็บโรคผิวหนังด้วย
วิธีปรุงยาและวิธีการใช้ยาก็มีหลายแนวทาง คือ
วิธีต้มยากินและอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มกินขณะอุ่นๆทีละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น จำต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดเสียก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำปกติตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง เช้าตรู่-เย็นครั้งละ 3-4 ขัน แม้กระนั้นหากมีเหงือกปลาหมอไม่น้อยเลยทีเดียว บางทีก็อาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
แนวทางการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาหมอ 5 คราวตากแห้งมาบดเป็นผุยผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร คนแก่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กบางครั้งอาจจะกินทีละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุและก็น้ำหนัก รับประทานวันละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะกินอาหาร ยามเช้า-เย็น รับประทานไปเรื่อยจวบจนกระทั่งจะหาย แต่ถ้าเป็นโรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันบกพร่องก็จำเป็นต้องกินตลอดกาล

ขั้นตอนการทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการบินร่อนเป็นผงละเอียดราวกับแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มก. คนแก่กินทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนที่จะรับประทานอาหาร เด็กลดลงตามส่วน
 เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์มากไม่น้อยเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น
-ราก มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ และใช้ขับเสลด
-ต้น มีสรรพคุณรักษาโรคหลายชนิด โดยใช้ต้นตำผสมน้ำกินรักษาวัณโรค อาการผอมเกร็ง หากใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาแตกต่างกันออกไปอีก
-ต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้ต้นลม แก้โรคผิวหนังทุกประเภท
-อีกทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังทำลายพิษ ต้มรับประทานแก้พิษฝีดาษ ฝีทั้งปวง ผลกินเป็นยาขับเลือดเมนส์ นอกจาก หากตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาหมดทั้งตัว
- อีกทั้งต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะ
- ตำเอาน้ำดื่มกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงรับประทาน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ไม่สบายจับสั่น
- ทั้งยังต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนรับประทาน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผอมโซเหลืองตลอดตัว รับประทานทุกๆวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเสมอกันใส่หม้อ เกลือหน่อยเดียว หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ท่อน ต้มกับน้ำกระทั่งเดือดให้งวดก็เลยชูลง กลั้นใจกินขณะอุ่นจนกระทั่งหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนทั้งตัว เวียนหัว ตามัว เจ็บระบมหมดทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาหมอ" อีกทั้ง 5 รวมราก กับ ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ปริมาณเสมอกัน กะตามต้องการ ต้มกับน้ำจนถึงเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา รุ่งเช้า ช่วงกลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดียิ่งขึ้น ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย และต้องระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นกินทุกวี่วัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค สติปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกจำพวกหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 ประเภท หูไว
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่รู้อิดโรย
กินได้ 7 เดือน ผิวสวย
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงกินกับน้ำร้อนถ้าเกิดผิวแตกทั้งตัวหายได้ ทั้งสิ้นที่บอกเป็นตำราเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรดูหมิ่น ทราบไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรเหงือกปลาหมอ

jimdofreebroaw

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • ดูรายละเอียด
    • Such A Good Neighbor
Such A Good Neighbor
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 23, 2021, 03:46:07 am »
We spent a lot of time at her home. Maybe so her mother could keep an eye on us. Mrs. Spencer made sure to be around, offering drinks, snacks, chit chat. I noticed that she was fairly young herself. Granted at my age, anyone over 25 was old, but she was probably mid-30s, divorced. If she was a indiction of how Carley would develop, maybe I should wait. Mrs. Spencer had fuller breasts and a nice butt. She appeared to be in great shape for her "advanced" age. I knew she was keeping an eye on me as much as I was on her and her younger daughter. Her eldest, Sharon was away at college at the time. With Mrs. Spencer around we mostly limited ourselves to holding hands and sneaking in a few light kisses. One day Mrs. Spencer caught us by surprise walking in as I'd slid my hand up from Carley's stomach to rub her right breast through her shirt. She didn't really need a bra yet, so I could feel her nipple, hard, through her shirt. Just this much contact had me hard also.
 
https://sites.google.com/view/d6crVLT1yhOe2b4a https://sites.google.com/view/2y2YwJKEe92LITlr

 

Sitemap 1 2 3