ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องนี้ควรรู้ 5 อาหารที่ทำให้แก่เร็ว มีเมนูอะไรบ้าง มาดูด่วน  (อ่าน 505 ครั้ง)

ButaKungZa

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
    • ดูรายละเอียด
เรื่องนี้ควรรู้! 5 อาหารที่ทำให้แก่เร็ว มีเมนูอะไรบ้าง มาดูด่วนi99bet

อาหารบางอย่าง แม้จะอร่อยถูกปากมากแค่ไหน แต่ขืนกินแบบเพลินปาก ย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอาหารที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ ที่ยิ่งทานก็เหมือนเป็นอาหารเร่งเหี่ยว ทำให้เกิดริ้วรอย แก่ลงเร็วกว่าเดิม

อาหารบางประเภท ถ้ารับประทานมากจนเกินไป จะส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวได้ จากปฏิกิริยาทางเคมี 2 ปฏิกิริยาหลักที่ทำร้ายโครงสร้างผิว หนึ่งคือ ปฏิกิริยาอ็อกซิเดชั่น (Oxidation) เป็นผลจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเผาผลาญ มาทำร้ายโครงสร้างผิวอย่างคอลลาเจนและอิลาสติน สองคือ ปฏิกิริยาไกลเคชั่น (Glycation) เป็นผลจากโมเลกุลของน้ำตาล มาเกาะกับโครงสร้างที่เป็นโปรตีนอย่างคอลลาเจน ส่งผลให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพ หากเรารับประทานอาหาร ที่เร่งการเกิดปฏิกิริยาทั้งสองมาก จะส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้เร็ว


อาหารที่ทำให้แก่เร็วi99bet
1. น้ำตาล การรับประทานอาหารหวานๆ มากเกินไป ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงเร็ว โมเลกุลของน้ำตาลเข้าจับกับคอลลาเจน ด้วยปฏิกริยา ‘ไกลเคชั่น’ ทำให้คอลลาเจนที่ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ผิวหมองแลดูไม่สดใสได้

2. สุราทุกประเภท นอกจากจะทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำแล้ว ยังก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายคอลลาเจน และอิลาสตินซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญให้ผิวเด้งดึ๋ง

3. คาเฟอีนในชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง หากได้รับมากไป จะรบกวนการนอน ทำให้หลับไม่สนิท โกรทฮอร์โมนซึ่งควรจะหลั่งมาซ่อมแซมร่างกายยามหลับ จะหลั่งออกมาได้ไม่ดี ส่งผลให้ผิวไม่สดใสยามเช้า

4. เนื้อแปรรูป (processed meats) เช่น ไส้กรอก แฮม หมูยอ ไส้กรอกอีสาน ลูกชิ้น มีสารโซเดียมไนไตรท์ ซึ่งก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ เร่งกระบวนการแก่ของเซลล์ผิวจากปฏิกริยาอ็อกซิเดชั่น

5. ไขมันทรานส์ (Trans fat) นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจแล้ว ยังส่งผลให้ผิวถูกทำร้ายจากรังสียูวีได้ง่ายขึ้น ไขมันทรานส์พบได้ในมาการีน ขนมกรุบกรอบสำเร็จรูปต่างๆ อาหารทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด

อาหารทำร้ายผิวเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าจะห้ามกินโดยเด็ดขาดนะคะ กินแต่พอประมาณได้ ขนมหวานชิ้นเล็กๆ สักชิ้น กาแฟสักแก้ว ถ้ากินแล้วมีความสุข สารเอนดอร์ฟินหลั่ง ก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่อย่ากินมากไปจนเกินขีดของความพอดี และส่งผลย้อนกลับมาทำร้ายร่างกายเราเอง การป้องกันก่อนเหี่ยว ง่ายกว่าตามซ่อมเมื่อเหี่ยวแล้วเป็นไหนๆ

ที่มา : พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล โรงพยาบาลสมิติเวชi99bet

 

Sitemap 1 2 3