ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าอัศจรรย์  (อ่าน 329 ครั้ง)

yi0s5xdf404

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด

ขิง
ขิง ชื่อสามัญ Ginger (จิน’พบ)
ขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe จัดอยู่ในสกุลขิง (ZINGIBERACEAE)
ขิง จัดเป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆด้าน เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยวิตามินรวมทั้งธาตุที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกายของเรา ตัวอย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และเส้นใยมากไม่น้อยเลยทีเดียวอีกด้วย ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงนั้น เราสามารถประยุกต์ใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น รวมทั้งผลก็ได้ทั้งนั้น
ประโยชน์ซึ่งมาจากขิง
-ขิงจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอด
มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะๆ ช่วยชะลอความแก่และก็ชะลอการเกิดริ้วรอย
มีส่วนช่วยสำหรับการคุ้มครองป้องกัน ต้านทานการเกิดโรคมะเร็ง ต่อต้านการเติบโตของเซลล์ของมะเร็ง
ช่วยลดผลข้างเคียงจากสารเคมีที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยเหตุนี้ควรจะรับประทานขิงพร้อมกันไปกับการรักษามะเร็งจะเกิดผลดี
ขิง มีฤทธิ์อุ่น ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยสำหรับการขับเหงื่อ
ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการใช้ลำต้นใหม่ๆเอามาตีให้แหลกราวๆ 1 กำมือ แล้วต้มกับน้ำ
ช่วยลดความอ้วน ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ด้วยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้ แล้วปลดปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ
ช่วยรักษาอาการปวดหัวและไมเกรน ด้วยการรับประทานน้ำขิงบ่อยๆ
ช่วยลดความอยากของผู้ติดยาเสพติดลงได้
แก้ตานขโมย ด้วยการใช้ขิง ใบกะเพรา พริกไทย ไพล มาบดผสมกันแล้วเอามารับประทาน
ช่วยรักษาโรคความดันเลือด ด้วยการนำขิงสดมาฝานต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยบำรุงรักษาหัวใจของคุณให้แข็งแรง
ช่วยทุเลาลักษณะของโรคประสาท ซึ่งทำให้จิตใจขุ่นมัว (ดอก)
ช่วยฟื้นฟูร่างการสำหรับมารดาหลังคลอดบุตร ด้วยการกินไก่ผัดขิง
มีส่วนช่วยให้เจริญอาหาร (ราก, เหง้า) ด้วยการใช้เหง้าสดโดยประมาณ 1 องคุลีเอามาต้มกับน้ำ ก็จะได้เป็นยาขมเจริญอาหาร
ใช้รับประทานเพื่อบำรุงเป็นยาธาตุ บำรุงธาตุไฟ (เหง้า, ดอก)
ใช้บำรุงน้ำนมของมารดา (ผล)
ช่วยทำให้นอนได้อย่างสบาย
การรับประทานขิงจะช่วยให้เลือดแข็งตัวเป็นลิ่มเลือดได้ช้าลง
ใช้แก้ไข้ (ผล) ด้วยการนำขิงสดมาคั้นเป็นน้ำให้ได้โดยประมาณครึ่งถ้วย แล้วผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วย แล้วเอามาดื่มวันละ 3 ครั้ง จะช่วยทุเลาอาการได้
ช่วยแก้หวัด บรรเทาอาการไอ บรรเทาหวัดจับเสมหะ ด้วยการใช้ขิงสดฝนกับน้ำมะนาวใส่เกลือหน่อยเดียว
ไอน้ำหอมระเหยจากน้ำขิงช่วยทำลายเชื้อไวรัสหวัดในทางเดินหายใจได้
แก้ลม (ราก)
ในคนเจ็บที่มีลักษณะเมายาสลบหลังผ่าตัด น้ำขิงช่วยแก้เมาได้
ช่วยแก้อาการเมารถ เมาเรือได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการใช้ขิงสดนำมาตำให้แหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำกิน (ไม่ต้องกินน้ำตาม)
ช่วยขจัดปัญหาผมตก หัวล้าน ด้วยการนำเหง้าสดไปผิงไฟจนถึงอุ่น แล้วเอามาตำให้แหลก นำมาพอกรอบๆที่มีผมหล่น วันละ 2 ครั้งจนถึงอาการ หรืออีกแนวทางก็คือคั้นเอาเฉพาะน้ำขิงมาผสมกับน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะกอกแล้วเอามาหมักผม นวดให้ทั่วศีรษะราว 30 นาทีก็ช่วยลดปัญหาผมตกได้เหมือนกัน แถมยังช่วยทำให้ผมสวย แข็งแรง มีความนุ่มลื่น ไม่ขาดง่ายอีกด้วย
-ช่วยบำรุงสายตา รักษาโรคเกี่ยวกับตา และใช้แก้อาการตามัว (ผล, ใบ)
ช่วยรักษาอาการตาเฉอะแฉะ (ดอก)
ช่วยแก้โรคกำเดา (ใบ)
ใช้แก้อาการคอแห้งผาก เจ็บคอ (ผล)
ใช้รักษาอาการปากคอยุ่ย ท้องผูก (เหง้า,ดอก)
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดฟัน ด้วยการนำขิงแก่มาตีให้รอบคอบคั่วกับน้ำสารส้มจนเกรียม แล้วบดจนถึงเป็นผุยผง แล้วหลังจากนั้นเอามาพอกบริเวณฟันที่ปวดแก้เสลด เสมหะขาวเหลวปริมาณมากมีฟอง (ผล, ราก)ช่วยรักษาภาวะน้ำลายมาก คลื่นไส้เป็นน้ำใสช่วยลดกลิ่นปาก แก้อาการปากเหม็น ด้วยการนำขิงมาคั้นผสมน้ำอุ่นและเกลือนิดหน่อย นำมาอมบ้วนปาก ช่วยฆ่าเชื้อโรคในปากได้อีกด้วยช่วยบำรุงรักษาฟันแล้วก็คุ้มครองป้องกันการเกิดฟันผุ
ช่วยกำจัดกลิ่นรักแร้ ด้วยการใช้เหง้าขิงแก่นำมาตีให้แหลก แล้วเอามาคั้นเอาน้ำมาทารักแร้เสมอๆ จะสามารถช่วยในการขจัดคราบกลิ่นได้
ช่วยแก้อาการสะอึก ด้วยการใช้ขิงสดตำกระทั่งแหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำผสมกับน้ำผึ้งนิดหน่อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่ม
ช่วยรักษาโรคบิด (ผล, ราก, ดอก) ด้วยการใช้ขิงสดประมาณ 75 กรัม ผสมกับน้ำตาลแดง เอามาตำจนกระทั่งเหมาะ แล้วกิน 3 มื้อต่อวัน
ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ (เหง้า, ผล) ด้วยการนำขิงสดประมาณ 5 กรัมหรือขนาดเท่านิ้วโป้งมือ เอามาตีให้แตกแล้วต้มกับน้ำ
ช่วยลดการอาเจียนคลื่นไส้จากการแพ้ท้อง (สำหรับหญิงมีครรภ์ไม่ควรกินบ่อยมากจนกระทั่งเกินไป)
แก้อาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ขับลมในไส้ (ผล, ราก, ใบ) ด้วยการนำขิงแก่มาตีพอแหลก เทน้ำเดือดลงไปครึ่งแก้ว แล้วปิดฝาตั้งทิ้งไว้โดยประมาณ 5 นาทีแล้วนำน้ำมาดื่มระหว่างมื้อของกิน
ช่วยรักษาอาการปวดในตอนก่อนหรือหลังเมนส์ ด้วยการนำขิงแก่ที่แห้งแล้วประมาณ 30 กรัมมาต้มกับน้ำเสมอๆ
ช่วยในการย่อยของกินได้อย่างมีคุณภาพ (ดอก)
ช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดอาการจุกเสียด (เหง้า)
ช่วยสำหรับในการขับถ่าย รวมทั้งช่วยในเรื่องของระบบลำไส้ให้ดำเนินการได้อย่างปกติ
ช่วยฆ่าพยาธิ พยาธิกลมจุกลำไส้ (ใบ) ใช้น้ำขิงผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาดื่ม
ช่วยแก้อาการขัดปัสสาวะ (ดอก, ใบ)
ช่วยรักษาปัสสาวะรดที่พักผ่อนในผู้เจ็บป่วยที่มีสภาวะหยางพร่อง มีความเย็นภายในร่างกายเป็นเหตุ
ช่วยรักษาโรคนิ่ว (ใบ, ดอก)
ช่วยแก้อาการบวมช้ำ (ใบ)
ขิง ช่วยรักษาอาการปวดข้อตามร่างกายด้วยการรับประทานขิงสดบ่อยๆ
มีฤทธิ์ช่วยต้านทานเชื้อแบคทีเรีย
ใช้เป็นยาแก้คัน ด้วยการนำแก่นของขิงฝนทำเป็นยา (แก่น)
จัดการกับปัญหาหนังที่มือลอกเป็นเกล็ด ด้วยการใช้เหง้าสดมาหั่นเป็นแผ่น แล้วเอามาแช่เหล้า 1 ถ้วยชา ทิ้งเอาไว้ 24 ชั่วโมง แล้วนำแผ่นขิงมาเช็ดบริเวณดังกล่าวข้างต้นวันละ 2 ครั้ง
ช่วยรักษาแผลเริมบริเวณหลัง ด้วยการใช้เหง้า 1 หัว เอามาเผาเปลือกนอกจนเป็นถ่าน คอยเฉือนถ่านที่เปลือกนอกออกไปเรื่อยๆแล้วนำผงที่ได้มาผสมกับน้ำดีหมูนำมาทาบริเวณที่เป็นแผลซึ่งถ้าหากว่าถูกแมงมุมกัด ใช้ขิงสดฝานบางๆนำมาวางทับรอบๆที่ถูกกัดจะช่วยทุเลาอาการได้ช่วยรักษาอาการมือเท้าเย็น กลัวหนาว เย็นท้อง เป็นต้น ช่วยคุ้มครองการแพ้อาหารทะเลจนถึงเกิดผื่นคัน ลมพิษ หรือของกินช็อกประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิง
ช่วยรักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวก ด้วยการนำขิงสดมาตำให้แหลก แล้วนำกากมาพอกบริเวณแผล เพื่อปกป้องการอักเสบแล้วก็การเกิดหนองในขิงมีสารที่สามารถใช้กันบูดกันหืนในน้ำมันได้
ในด้านการประกอบอาหารนั้น ขิงสามารถช่วยเพิ่มรสอาหารได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถช่วยดับกลิ่นคาวของของกินได้ดีอีกด้วย
ในด้านความงามนั้นมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของขิงอีกด้วย
ช่วยให้ผิวพรรณเรียบเนียนยิ่งขึ้น ด้วยการนำขิงสดมาขูดเป็นฝอยแล้วเอามานวดรอบๆต้นขา ก้น หรือรอบๆที่มีเซลลูไลต์จะช่วยลดความขรุขระของผิวได้อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์จากขิงนั้นเอามาแปรรูปได้หลายชนิด ดังเช่นว่า บัวลอยน้ำขิง ขิงแช่อิ่ม ขิงเชื่อม ขิงกระป๋อง ขิงแคปซูล น้ำขิงมะนาว เป็นต้น

ขั้นตอนการทำน้ำขิง
วิธีการทำน้ำขิงวิธีการทำน้ำขิงลำดับแรกให้จัดเตรียมส่วนประกอบดังต่อไปนี้ ขิงแก่ 1 กิโล / น้ำตาล 1 ถ้วยตวง / น้ำสะอาด 3 ลิตร
นำขิงที่ได้ไปล้างให้สะอาด เอามาทุบให้แตก แล้วเอามาใส่ในหม้อต้ม เพิ่มเติมน้ำที่สะอาดลงไป เอาขึ้นตั้งไฟ
เมื่อต้มจนถึงน้ำเดือดแล้วค่อยค่อยไฟลง ต้มโดยประมาณ 20 นาทีกระทั่งน้ำขิงละลายออกมาจนหมด (น้ำจะเป็นสีเหลืองอ่อนๆ) แล้วชูลงจากเตา
เสร็จแล้วให้ตักน้ำขิงใส่แก้ว เติมน้ำตาลลงไป 1-2 ช้อนชา (ตามความอยาก) แล้วคนให้เข้ากัน
เป็นระเบียบเรียบร้อยและก็สามารถเอามากินได้ โดยนำมาดื่มแบบร้อนๆได้เลย
หรือจะดื่มแบบเย็นๆด้วยการใส่น้ำแข็งลงไปก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ควรจะเติมน้ำตาลมากกว่า 2-3 เท่า (จะช่วยไม่ให้รสจืดมากเกินความจำเป็น เพราะเหตุว่ามีน้ำแข็งผสมอยู่นั่นเอง)
น้ำขิงที่คั้นมานั้นไม่ควรใช้ปริมาณที่เข้มข้นกระทั่งเกินความจำเป็น เพราะว่าจะเป็นโทษต่อสุขภาพร่างกายได้ ด้วยเหตุว่าจะไปยับยั้งการบีบตัวของไส้ จนถึงทำให้ลำไส้หยุดการบีบตัว ฉะนั้นควรจะคั้นในปริมาณน้อยๆหรือดื่มจนเกิดความเคยชินก่อน
พวกเรามักจะรู้จักคุ้นเคยกับขิงว่าเป็นอาหารที่นิยมนำมาใช้สำหรับเพื่อการทำครัวรวมทั้งทำเครื่องดื่ม ซึ่งอันที่จริงแล้วขิงจัดเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยการเยียวยารักษาโรคต่างๆได้สารพัน ถือว่าเป็นตัวช่วยสำหรับการรักษาโรคได้เลยทีเดียว แต่ว่าทั้งนี้เราก็ไม่สมควรจะหวังพึ่งสรรพคุณของขิงเพียงอย่างเดียวสำหรับเพื่อการรักษาโรค ควรทำอย่างอื่นหรือดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของพวกเราร่วมด้วยจะได้ผลลัพธ์ที่ดีนักแล
พวกเรามักนิยมใช้ขิงแก่ เพราะว่ายิ่งแก่จะยิ่งให้ความเผ็ดร้อน ก็เลยมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าขิงอ่อน รวมทั้งยังมีใยอาหารมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย แต่ว่าเพราะเหตุว่าขิงมีรสเผ็ด มีคุณลักษณะอุ่น ก็เลยไม่เหมาะสมกับคนที่มีความร้อนภายในร่างกายอยู่แล้ว เป็นต้นว่าผู้ที่เหงื่อออกมาก เหงื่อออกช่วงกลางคืน ตาแดง หรือมีไฟในตัวมากกว่าธรรมดา แม้กระนั้นถ้าหากจะรับประทานควรระมัดระวังเป็นพิเศษ http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรขิง

 

Sitemap 1 2 3