สำหรับใครก็ตามที่มีรถยนต์ไว้ใช้งานหลายคันนั้น แน่นอนว่ามันบ่งบอกถึงระดับความมั่นคงทางการเงินได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการมีรถยนต์หลายคันนั้นเราก็อสจจะลืมเรื่องของการ
ต่อพรบรถยนต์ หรือต่อ
ประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจได้ และถ้าหากว่าใครก็ตามที่ไม่ต้องการถเสียเงินในเรื่องของการดูแลรถยนต์มากเกินความจำเป็นนั้นก็อาจจะพิจารณาก่อนว่า รถยนต์คันใดที่เราใช้บ่อยที่สุดเพื่อที่จะได้ทำ
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ไว้ ส่วนคันที่เราไม่ค่อยได้ใช้งานนั้นเราก็อาจจะทำ
ประกัน รถยนต์ 2 หรือประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็ได้ และถ้าหากว่าใครก็ตามที่มีรถยนต์หลายนั้นแน่นอนว่าก็จะต้องมีคันที่จอดทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ แน่ ๆ ฉะนั้นในวันนี้เรามีเคล็ดลับมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนกันด้วยว่า ถ้าเราจะต้องจอดรถยนต์ทิ้งไว้เป็นเวลานานนั้นเราควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้รถยนต์ของเรานั้นไม่เสียหาย
1. เราต้องล้างรถให้สะอาด ดูดฝุ่นด้านใน และก็ถอดซักพรมปูพื้นด้วยเพื่อไม่ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ เกาะอยู่ที่รถนานเกินไป เพราะถ้าหากเราทิ้งไว้แล้วค่อยมาดูดล้างเช็ดพร้อมกับตอนที่ต้องใช้รถนั้นมันก็จะล้างออกยาก นั่นเอง
2. ให้เราจอดรถไว้ในที่ร่ม ทั้งนี้ไม่ควรให้รถโดนแดดโดนฝน และถ้าเป็นไปได้ให้เราหาผ้าคลุมรถทั้งคันไว้ ที่สำคัญคือ อย่าไปจอดรถไว้ใกล้บริเวณที่ชื้นแฉะ หรือในบริเวณที่อยู่ใกล้ถักับงขยะ เพราะอาจจะมีหนูมาสร้างรังในรถได้นั่นเอง
3. เราต้องเติมลมยางให้แข็งกว่าปกติ ทั้งนี้ก็เพราะว่าการที่เราจอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ นั้นมันก็จะทำให้น้ำหนักของตัวรถกดทับยาง และอาจจะทำให้ยางเสียรูปได้ นอกจากนี้มันยังจะช่วยรักษารูปทรงของโครงสร้างของยางให้เป็นปกติได้มากที่สุด
4. เราควรจะถอดแบตเตอรี่รถยนต์ออกไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่หมดนั่นเอง เพราะรถยนต์นั้นมันจะดึงไฟจากแบตเตอรรี่รถยนต์อยู่ตลอดเวลาแม้เราจะไม่ได้สตาร์ทเครื่องก็ตาม และถ้าหากว่าใครถอดไม่เป็นเราก็อาจจะศึกษาวิธีการถอดแบตเตอรี่ก่อนถอดออกก็ได้ หรือเราอาจจะถอดเพียงขั้วลบแบตเตอรี่ออกก็ได้เช่นกัน
5. ให้เราเช็คระดับของเหลวในเครื่องยนต์ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์เป็นสนิมนั่นเอง ซึ่งเราควรดูเรื่องของน้ำมันเบรค น้ำในหม้อน้ำ หรือน้ำมันเครื่องต่าง ๆ เป็นต้น
6. และถ้าหากว่าเป็นไปได้เราควรที่จะมาสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ประมาณ 10 - 15 นาที หรือติดเครื่องเดินเบาสลับกับเหยียบคันเร่ง และที่สำคัญเราควรให้รถเดินหน้าหรือถอยหลังเพื่อเปลี่ยนจุดที่หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนนั่นเอง และถ้าหากว่าเราทำแบบนี้ได้ล่ะก็ เราก็ไม่ต้องถอดแบตเตอรี่รถยนต์ออกก็ได้
7. ถ้าหากว่ารถยนต์มีปัญหาในส่วนใดก็ให้เรานำรถยนต์เข้าศูนย์เพื่อเช็คระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ก่อนที่จะนำไปใช้งาน เพราะบางครั้งมันอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้นั่นเอง
