ผู้เขียน หัวข้อ: ความแตกต่างระหว่างข้าวหอมมะลิ 105 แล้วก็ หอมมะลิ กข 15  (อ่าน 187 ครั้ง)

Cloudsupachai111

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2617
    • ดูรายละเอียด
ความแตกต่างระหว่างข้าวหอมมะลิ 105 และก็ หอมมะลิ กข 15

ข้าวหอมมะลิ เป็นสายพันธุ์ข้าวที่มีถิ่นเกิดในไทยมีลักษณะกลิ่นหอมคล้ายใบเตยเป็นพันธุ์ข้าวที่ปลูกได้คุณภาพดีที่สุดในไทยถ้าเทียบกับการปลูกเอาไว้ภายในประเทศอื่นๆและเป็นจำพวกข้าวที่ทำให้ข้าวไทยเป็นสินค้าส่งออกที่รู้จักไปทั่วโลก

เมื่อปี พุทธศักราช 2497 นายสุนทร สีหเนิน บุคลากรข้าว จังหวัดฉะเชิงเทราได้สะสมชนิดข้าวหอมในเขตอำเภอบางคล้า ได้จำนวน 199 รวงแล้ว ดร.เสื้อครุย บุณยราชสีห์ (ผู้อำนวยการกองบำรุงจำพวกข้าวในตอนนั้น) ได้ส่งไปปลูกคัดเลือกจำพวกบริสุทธิ์และเทียบจำพวกที่สถานีทดลองข้าวโคกสำโรง (ปัจจุบันนี้เป็นสถานีข้าวลพบุรี) ดำเนินการคัดจำพวกโดยนักวิชาการเกษตรชื่อนายมังกร จูมทอง ภายใต้การดูและของนายโอภาส พลศิลป หัวหน้าสถานีทดสอบข้าวโคกสำโรงจนตราบเท่าปี พุทธศักราช 2502 ได้ชนิดบริสุทธิ์ข้าวขาวดอกมะลิ 4-2-105105 (เลขลำดับ 4 หมายถึงอำเภอที่เก็บมาอำเภอบางคล้า ลำดับที่ 2 หมายคือชื่อจำพวกข้าวที่เก็บในอำเภอนั้น เป็น จำพวกหอมมะลิ และ หมายเลข 105 คือ ตำแหน่งรวงข้าวของพันธุ์หอมมะลิที่เก็บในที่นั้น รวงที่ 105) และก็คณะกรรมการใคร่ครวญชนิดข้าวได้อนุมัติให้เป็นพันธุ์ส่งเสริมแก่เกษตรกร ช่วงวันที่ 25 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2502 โดยเกษตรกรทั่วไปเรียกว่า “ขาวดอกมะลิ 105 ต่อมาได้มีการแก้ไขจำพวกข้าว ขาวดอกมะลิ 105 จนได้ข้าวชนิด กข 15 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ประกาศให้ ข้าวอีกทั้ง 2 จำพวกเป็นข้าวหอมมะลิไทย

ลักษณะเฉพาะของกลิ่นหอมยวนใจมะลิ

ความหอมของข้าวหอมมะลิ มีต้นเหตุมาจากสารระเหยชื่อ 2-acetyl-1-pyroline ซึ่งเป็นสารที่ระเหยหายไปได้
การรักษาความหอมของข้าวหอมมะลิให้ดำรงอยู่นานนั้นควรต้องเก็บข้าวไว้ในที่เย็น อุณหภูมิประมาณ 15 องศาเซลเซียส เก็บข้าวเปลือกที่มีความชื้นต่ำ 14-15% ลดความชื้นข้าวเปลือกที่อุณหภูมิไม่สูงเกินความจำเป็น นักการเกษตรกรบางคนกล่าวว่า การใช้ปุ๋ยโปตัสเซียมสำหรับในการปลูกมีลัษณะทิศทางช่วยให้ข้าวมีกลิ่นหอมยวนใจเยอะขึ้น (ยังไม่มีข้อมูลรับรอง)

ข้าวขาวดอกมะลิ 105 เป็นข้าวไวแสง

ข้าวไวต่อช่วงแสงสว่าง คือ ข้าวที่จะออกรวงเมื่อแสงแดดลดน้อยลงจากขณะปกติ ซึ่งหลายคนบางทีอาจสงสัยแล้วทำไมจำเป็นต้องปลูก ในเมื่อมันควบคุมยากที่ต้องปลูกข้าวไวแสงสว่างเพราะว่าข้าวหลายสายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติเด่นๆ
มันเป็นข้าวที่ถูกควบคุมด้วยยีน หรือกรรมพันธุ์ที่หลงเหลือมาจากจำพวกป่า หรือจำพวกดั้งเดิมที่เกิดขึ้นมาจากการปรับตัวตามธรรมชาติ เพื่อให้ดำรงเผ่าพันธุ์ตนเองไว้ได้ ตัวอย่างเช่น ข้าวขาวดอกมะลิ 105 รวมทั้งข้าวกข15 ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณลักษณะ นุ่มหอม และก็เป็นที่ต้องการของตลาดแสงตะวันปกติที่ส่องถึงผิวโลกของเมืองไทยพวกเราคิดคำนวณที่ 12 ชั่วโมง ส่วนข้าวไวต่อช่วงแสงสว่างคือข้าวที่จะมีดอกเมื่อโดนแสงน้อยกว่า 12 ชั่วโมง โดยข้าวไวต่อตอนแสงสว่างมี 2 แบบ ข้าวไวน้อยต่อตอนแสง จะมีดอกเมื่อความยาวช่วงกลางวันราวๆ 11 ชั่วโมง 40-50 นาที รวมทั้งข้าวไวมากมายต่อตอนแสง จะมีดอกเมื่อความยาวกลางวันประมาณ 11 ชั่วโมง 10-20 นาที

ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อเลือกปลูกข้าวประเภทที่ไวต่อช่วงแสงสว่างไม่ว่าจะเริ่มปลูกเมื่อไรก็ตาม เมื่อถึงตอนหน้าหนาวของเมืองไทย ซึ่งเป็นตอนๆที่ช่วงเวลากลางวันสั้นกว่าช่วงเวลากลางคืน ข้าวก็จะออกดอกทันที ก็เลยเป็นที่มาของคำว่า “ปลูกวันแม่ เกี่ยววันบิดา”(12 สิงหาคม – 5 ธ.ค.) เพราะว่าชนิดข้าวที่พวกเราปลูก เป็น ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และก็ข้าว กข15 ซึ่งเป็นข้าวหนักมีอายุการเก็บเกี่ยว มากกว่า 120 วัน หากเราปลูกเร็วเกินความจำเป็นก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลมากขึ้น
ถ้าปลูกช้าเกินไป ข้าวก็จะไม่อาจจะสะสมของกินได้เต็มกำลังก่อนออกรวง ทำให้ผลผลิตลดลงนั่นเอง

ลักษณะของสายพันธุ์

– นิยมปลูกในฤดูนาปี จะมีกลิ่นหอมสดชื่นมาก เมื่อพบสภาวะน้ำแห้งรวมทั้งอากาศเย็น
– เป็นข้าวที่ไวต่อช่วงแสง เป็นข้าวหนัก คุณภาพดี
– เก็บเกี่ยวได้ประมาณช่วงกลางเดือน พฤศจิกายน อายุจนกระทั่งเก็บเกี่ยวราวๆ 120 วัน
– ผลผลิตราว 363 กกต่อไร่ (แม้กระนั้นถ้าเกิดดูแลดีก็ได้ผลผลิตสูงมากขึ้นกว่านี้ได้)
– ทนต่อภาวะดินเค็ม ดินเปรี้ยว ความแล้ง ก้าวหน้า
– พื้นที่เสนอแนะสำหรับในการปลูก ภาคอิสานและก็เหนือตอนบน
– จำนวน อะมิโลสต่ำคือโดยประมาณ 12-17% (ยิ่งมีค่าต่ำเยอะแค่ไหน ยิ่งมีความหอมมาก)

ข้อเด่น
– มีกลิ่นหอมยวนใจ นุ่ม อร่อย หากแม้ตอนข้าวสวยและเย็น แม้เก็บเป็นข้าวเปลือก
– เมือนำมาสีเป็นข้าวสารก็ยังคงความนุ่มหอมไว้ได้

หอมมะลิ ประเภท กข 15 (ที่เรียกว่า หอมมะลิ ได้จากการปรับแก้ประเภทโดยการใช้รังสีชักพาให้มีการกลายพันธุ์ ของข้าวหอมมะลิ 105) รับประกันสายพันธุ์เมื่อ ตอนวันที่ 28 เดือนเมษายน 2521

ลักษณะของสายพันธุ์
– นิยมปลูกในฤดูนาปี จะมีกลิ่นหอมสดชื่นมาก เมื่อพบภาวการณ์น้ำแห้งรวมทั้งเย็น แต่เป็นข้าวประเภทค่อยให้ผลผลิตได้มาก
– จะสุกรวมทั้งสามารถเกี่ยวได้ก่อนข้าวหอมมะลิ 105 ราวๆ 20 วัน
– -ผลิตผล โดยประมาณ 560 โลต่อไร่
– ทนแล้งรวมทั้งดินเค็ม ดินกรด เจริญ
– ปลูกลงในพื้นที่ภาคอิสาน
– ปริมาณอมิโลส 14-17 % (ยิ่งมีค่าต่ำเท่าใด ยิ่งมีความหอมมาก)

ข้อเด่น
– มีกลิ่นหอมยวนใจ นุ่ม เสมือนข้าวหอมมะลิ 105 แต่ว่ากลิ่นจะหอมน้อยกว่า เพราะการปรับแต่งสายพันธุ์

ข้าวหอมบัว ชื่อเรียก กข31(จังหวัดปทุมธานี 80) การันตีสายพันธุ์ ช่วงวันที่ 6 มี.ค. 2550

ลักษณะของสายพันธุ์
– เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง เม็ดสั้น เป็นข้าวนาปรังอายุเก็บเกี่ยวแน่นอนราว 110 วัน
– ผลผลิตเฉลี่ย 738 กก.ต่อไร่ (นาหว่านน้ำตม)
– จำนวนอมิโลสสูง (27.3 – 29.8 %)
– มีกลิ่นหอมรวมทั้งนุ่มเวลาหุงเสร็จใหม่ๆแต่จะหยาบเมื่ออาหารเย็นตัวลง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข้าวหอมมะลิ ราคา

Tags : ข้าวหอมมะลิ,ข้าวหอมมะลิ 105

 

Sitemap 1 2 3