ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีเลือกซื้อสายชาร์จมือถือ และวิธีรวบรวมรักษาสายชาร์จมือถือ  (อ่าน 206 ครั้ง)

Keekayr1200gs

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2703
    • ดูรายละเอียด
วิธีเลือกซื้อสายชาร์จ
ใครที่ใช้สายชาร์จมือถือ ในการชาร์จไฟมือถือ และ PowerBank ด้วยแล้วสังเกตว่าชาร์จนาน 3-4 ชั่วโมงแล้วทำไมไม่เต็มซะที บางคนก็โทษว่าที่อยู่อาศัยนี้ปล่อยกระแสไฟฟ้าต่ำไปในบางร้าน เลยใช้เวลาชาร์จนาน หรือ PowerBank มาช่วยเหลือชาร์จแล้วก็ยังเป็นเปอร์เซ็นเท่าเดิม เผลอๆลดลงอีกไม่ช่วยเหลืออะไรเลย รู้มั้ยว่าความจริงแล้วอาจจะเป็นเนื่องด้วยปลั๊ก Adaptor จ่ายไฟ พร้อมกับ สายชาร์จสมาร์ทโฟนคุณนั่นแหละ ไส้ในเสื่อมแล้ว แม้ดูด้านนอกสายชาร์จไม่เปื่อยก็ตาม
สมัยนี้สายชาร์จสมาร์ทโฟน ที่จำหน่ายในท้องตลาดมีถึง 3 แบบแล้วคือ

  • สาย Lightning ที่ใช้ตั้งแต่ iPhone 5 จนมาถึงปัจจุบัน รวมทั้ง iPod Touch และ iPad รุ่นสมัยปัจจุบันด้วย
  • สาย Micro USB ซึ่งยอดนิยมมากในมือถือ Android ทั่วๆ ไป , Windows Phone และตอนนี้เป็นพอร์ทที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดด้วย
  • สาย USB-C ( USB Type-c ) ที่ออกแบบเพื่อส่งข้อมูลได้เร็วแล้ว การชาร์จไฟก็เร็วด้วย รองรับไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 5 mAh เลยทีเดียว

    คราวนี้มาถึง Adaptor หรือปลั๊กหัวชาร์จไฟบ้าง โดยสมาร์ทโฟน iPhone จะแถม Adaptor เพื่อ iPhone ซึ่ง Adaptor นั้นปล่อยกระแสไฟฟ้าที่ 1 mAh (ถ้าซื้อ iPad จะได้ Adaptor ชาร์จ 1.5 mAh ในการชาร์จไฟ)

    การชาร์จเร็วไม่ได้ดูที่สาย ต้องดูที่สมาร์ทโฟนรองรับหรือไม่
    ทั้งนี้ iPhone จำนวนมากทั้งหมด ไม่รองรับ Fast Charge เลย ซึ่งตอนนี้เพิ่งจะมาตอน iPhone 8 , iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่เพิ่งเปิดตัวนี้เอง ต่อจากนั้นการซื้อสาย iPhone ที่มีบอกกำหนดว่า Fast Charge นี้อย่าเชื่อ และถ้าซื้อแล้วก็ได้รับกระแสไฟฟ้าตามปกติตามที่ชาร์จทั่วๆ ไปนั่นเอง แต่จะชาร์จเร็วหรือชาร์จช้าของ iPhone นี้ขึ้นอยู่กับ Adaptor ที่จะจ่ายไฟเท่าไหร่ ซึ่ง iPhone จะจ่ายแค่ 1 mAh เท่านั้น ถ้าอลำบากให้ชาร์จเร็วขึ้น ต้องแปรเปลี่ยนหัว Adaptor ใหม่ ขนาด 1.5 mAh แต่การชาร์จไฟต้องปล่อยกระแสไฟไม่เกิน 2.1 mAh มิฉะนั้นอาจทำให้ iPhone ไหม้หรือระเบิดได้
    ส่วนกรณี Android บางรุ่นมีไฮเทค Fast Charge ที่ชาร์จเพียง 30 นาที ได้ถึง 80% แล้ว ทั้งนี้ต้องทดสอบว่ารุ่นสมาร์ทโฟนของท่านรองรับนวัตกรรม Fast Charge หรือเปล่า โดยส่วนมากรุ่นที่รองรับการ Fast Charge นี้ได้แก่ สมาร์ทโฟนที่รองรับชาร์จแบบ USB Type-C พร้อมกับ สมาร์ทโฟนชาร์จแบบ Micro USB ของบางแบรนด์ระดับเรือธงเช่น Samsung , Huawei , OPPO , SONY ทั้งนี้การที่จะ Fast Charge ได้นั้น โทรศัพท์มือถือต้องรองรับ สายต้องรองรับ และหัว Adaptor ต้องรองรับด้วย
    ทั้งนี้สาย Micro USB สามารถรองรับการจ่ายไฟได้เต็มที่ระหว่าง 1 – 2.1 mAh บางสายก็รองรับถึง 5 mAh แล้วด้วย แต่จำนวนมากและเหมาะสมสุดคือเต็มที่ไม่เกิน 2.1 mAh ทั้งนี้คุณภาพของสายชาร์จก็สำคัญด้วย เนื่องจากใส้ในเป็นอลูมิเนียมนี้ จ่ายไฟได้น้อยกว่าสายทองแดง ต่อจากนั้นการเลือกซื้อสาย USB ต้องซื้อแบบสายทองแดง ซึ่งสายแท้จะมาพร้อมสายทองแดงอยู่แล้ว แต่ถ้าเน้นจ่ายไฟฟ้าเร็วสุดต้องเป็นสายชาร์จ USB ที่ใส้ในเป็นสายเงินซึ่งจ่ายไฟได้เร็วกว่าสายทองแดง

    อีกหัวเรื่องที่ท่านสงสัยว่า สายสั้นจะชาร์จเร็วกว่าสายยาวจริงหรือไม่
    สายชาร์จสั้นจะสามารถชาร์จได้เร็วกว่าสายยาวจริง ได้รับกระแสไฟฟ้าที่สูงกว่าแบบสายยาว แต่หากเทียบระหว่างสายยาว 1 เมตร มาพร้อมกับ สายยาว 2 เมตร หากเป็นสายแบบมีคุณภาพดีพอ สาย 2 เมตรจะมีค่ากระแสไฟฟ้าพอๆพร้อมกับ สายยาว 1 เมตร
    ทั้งนี้หากประสงค์อยุ่งยากรู้ว่าขณะชาร์จไฟนั้นมีกระแสไฟฟ้าเข้าเครื่องมากน้อยแค่ไหน คุณภาพสายดีมั้ย สามารถทดสอบด้วยตนเองจากแอปนี้เลย Ampere สำหรับผู้ใช้ Android โหลดฟรีทาง Play Store
    การเลือกซื้อสาย อย่าเน้นราคาถูก เพราะว่าการเลือกสรรราคาถูก อาจจะได้สายที่ลดคุณภาพหรือลดวัตถุภายในของสายชาร์จด้วย แม้จ่ายสตางค์สะดวก แต่สายเสียเร็วเสมอเหมือนกันแค่งอสายก็เสียแล้ว ดังนี้เลือกสรรซื้อยี่ห้อดังๆในราคาปานกลางจะดีกว่า และดูว่าทนต่อการบิดงอหรือไม่ด้วย
     
    ทริคเรียบเรียงสายชาร์จ[/url]มือถือ[/b]
    ให้ใช้วิธีแบบม้วนประมวล อย่าหักสาย พับสาย หรือทำแบบขยำๆสายเด็ดขาดเนื่องจาก จะทำให้สายทองแดงขาด และไม่สามารถใช้งานได้ทนทาน ดังนี้ม้วนเก็บดีๆกว่า รวมทั้งอย่าไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง และอีกพฤติกรรมที่ต้องหยุดคือ การชาร์จไปเล่นมือถือไป เนื่องด้วยการทำแบบนี้ทำให้เครื่องร้อน ไฟกระชาก และทำให้สายชาร์จมือถือเสียหายได้
    อย่างน้อยใส่ใจเกี่ยวกับคุณภาพของสายชาร์จ และดูแลสายชาร์จโทรศัพท์มือถือกันสักนิด ทำแบบนี้ช่วยเหลือคุณใช้สายชาร์จของสมาร์ทโฟนได้ทนนาน และประหยัดเงินในกระเป๋าคุณด้วย
     

    Tags : สายชาร์จ

 

Sitemap 1 2 3