ผู้เขียน หัวข้อ: Stroke คือ อะไร ? ทำไมต้องดูแลและป้องกันตัวเองจากโรคนี้  (อ่าน 279 ครั้ง)

muthita

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • ดูรายละเอียด
Stroke คือ อะไร ? ทำไมต้องดูแลและป้องกันตัวเองจากโรคนี้

   ถ้าพูดถึงโรคในปัจจุบันที่มีความรุนแรงค่อนข้างมาก แบ่งเป็นหลากหลายระดับด้วยกัน สามารถที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน หลาย ๆ คนก็คงต้องนึกถึงโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองนั้นมีชื่อเรียกทางการแพทย์ก็คือ Stroke อาจจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง เนื่องด้วยโรค Stroke นี้เป็นโรคที่เราสามารถที่จะดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนได้ไปเรียนรู้โรคนี้พร้อมกับแนะนำวิธีการป้องกันดูแลสุขภาพเพื่อให้ห่างไกลจากโรคหลอดเลือดสมอง

      อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า Stroke คือ โรคหลอดเลือดสมอง ที่เมื่อเป็นแล้วก็จะทำให้เกิดอาการอื่น ๆ ตามมา คือจะมีอาการอ่อนแรงครึ่งซีก แขน ขาข้างใดข้างหนึ่งจะไม่มีแรง ซึ่งจะมากน้อยก็ขึ้นกับระดับความรุนแรงของแต่ละคน ความรุนแรงของโรคหลอดเลือดสมองที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการเสียชีวิต ซึ่งในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหลาย ๆ คนก็จะพบปัญหาในเรื่องของการเคลื่อนไหว ทั้งรยางค์ส่วนบนและส่วนล่าง มีปัญหาด้านการพูด การกลืนอาหาร มีอาการชา มีการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มีการจำกัดการทำกิจกรรมต่าง ๆ และอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยด้วย สำหรับโรคหลอดเลือดสมองนั้นสามารถที่จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

- อาการเส้นเลือดในสมองตีบ หรืออุดตัน เรียกว่า Ischemic stroke เป็นภาวะที่อาจส่งผลให้เนื้อสมองในบริเวณที่ขาดเลือดไปเลี้ยงตายได้ โดยเราจะพบว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองส่วนใหญ่นั้นจะเป็น Ischemic stroke มากถึง 85 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

- ภาวะหลอดเลือดสมองแตก หรือ Hemorrhagic stroke เป็นภาวะที่มักจะเกิดกับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถจะควบคุมความดันโลหิตได้ อาจจะเกิดอาการความดันสูงเฉียบพลัน มีโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง หรือได้รับยาละลายลิ่มเลือดมากเกินไป เป็นต้น

- ในส่วนที่สามคือภาวะสมองขาดเลือดชั่วขณะ หรือTransient ischemic attack – TIA เป็นอาการชั่วคราวที่มีลักษณะการเหมือนกับโรคหลอดเลือดสมอง คือมีอาการจากการที่สมองมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอเป็นการชั่วคราว ซึ่งอาการจะค่อย ๆ ดี ขึ้นเอง โดยการคงอยู่ของอาการนั้นจะไม่เกิน 1 วัน

        สำหรับใครที่อยากหาวิธีป้องกันตนเองจากโรคนี้ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้ ทั้ง ภาวะไขมันในเลือดสูง การเป็นโรคเบาหวาน มีความดันโลหิตสูง เป็นโรคหัวใจ มีโรคอ้วน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ค่อนข้างมาก การสูบบุหรี่เป็นประจำ การใช้สารเสพติดต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย เราควรที่จะมีการ ตรวจ สุขภาพ ประ จํา ปี เพื่อเช็คร่างกายตนเองอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งถ้าหากพบว่าเรามีโรคประจำตัวใด ๆ จะได้รักษาและป้องกันความเสี่ยงอย่างถูกวิธี

       ในส่วนของการรักษาโรคหลอดเลือดสมองนั้นสามารถที่จะทำได้หลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งจะเริ่มต้นจากการวินิจฉัยโรคด้วยการทำ CT scan หรือ MRI หลังจากนั้นประเมินอาการผู้ป่วยและให้การรักษาที่เหมาะสม โดยจะมีการใช้ยาเพื่อการรักษา การผ่าตัด การใช้สายสวนเข้าไปเพื่อเอาลิ่มเลือดในหลอดเลือดออกมา ในกรณีที่มีหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน สำหรับภาวะหลอดเลือดสมองแตกในบางรายที่มีภาวะโรคหลอดเลือดสมองเกิดจากหลอดเลือดโป่งพอง แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยการสวนหลอดเลือดและใส่ขดลวด ทั้งนี้หลังจากที่มีการรักษาเบื้องต้นแล้ว ผู้ป่วยที่ยังมีความบกพร่องของร่างกายอยู่จำเป็นที่ต้องได้รับการฟื้นฟูร่างกาย การฝึกการเคลื่อนไหว ฝึกการพูด เป็นสิ่งที่สำคัญ ผู้ป่วยควรที่จะฝึกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และกลับมาทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

ที่มาข้อมูล
- https://www.medparkhospital.com/content/stroke
-https://www.sikarin.com/content/detail/456/5-สัญญาณเตือน-ผู้ป่วย-stroke-ต้องนำส่งโรงพยาบาล



 

Sitemap 1 2 3